ททท. เปิดตัวแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับนานาชาติครั้งใหม่หวังดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาไทยต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2568 ที่ททท. สำนักงานใหญ่ กรุงเทพมหานคร คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงแผนและรายละเอียดของแคมเปญภายใต้แบรนด์ “Amazing Thailand: Reconnect 2026” ที่มุ่งเน้นการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวหลังจากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ
ในงานแถลงข่าว คุณฐาปนีย์ระบุว่า แคมเปญนี้ใช้งบประมาณรวมประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยจะดำเนินงานตั้งแต่ปลายปี 2568 จนถึงสิ้นไตรมาสที่สองของปี 2569 พร้อมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์ในตลาดหลัก ได้แก่ จีน อินเดีย ยุโรป สหรัฐฯ และกลุ่มอาเซียน แผนงานประกอบด้วยการทำตลาดดิจิทัล, ความร่วมมือกับสายการบินและเอเยนซี่ท่องเที่ยว, โรดโชว์เชิงพาณิชย์ในต่างประเทศ และโปรแกรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ (experiential tourism)
หนึ่งในจุดเน้นของแคมเปญคือการส่งเสริมการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ โดย ททท. จะร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนเปิดตัว “แคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงเทพฯ โดย ททท.” ที่เน้นการโปรโมตเส้นทางท่องเที่ยวในเมือง, วัฒนธรรม, อาหารท้องถิ่น และกิจกรรมยามค่ำคืนที่ปลอดภัย กิจกรรมตัวอย่างได้แก่ เส้นทางเดินชมเมืองเชื่อมต่อย่านประวัติศาสตร์ การจัดเทศกาลอาหารนานาชาติ และการประชาสัมพันธ์ตลาดกลางคืนที่ผ่านมาตรฐานการจัดการด้านสุขอนามัย
นโยบายหลักที่ททท. ประกาศในการแถลงคราวนี้เน้น 4 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1) การเพิ่มการรับรู้แบรนด์ประเทศผ่านคอนเทนต์ดิจิทัลและอินฟลูเอนเซอร์ 2) การกระจายการท่องเที่ยวสู่จังหวัดรองเพื่อคลี่คลายปัญหาการแออัดในเมืองหลัก 3) การผนวกแนวทางการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและคำนึงถึงชุมชนท้องถิ่น และ 4) การให้สิทธิประโยชน์ด้านการตลาดแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้านการท่องเที่ยว
แผนงานโรดโชว์จะเริ่มต้นในเดือนพฤศจิกายน 2568 โดยมีเป้าหมายจัดกิจกรรมในลอนดอน นิวยอร์ก ปักกิ่ง นิวเดลี และสิงคโปร์ คาดว่าจะมีการเข้าถึงประชากรเป้าหมายผ่านสื่อออนไลน์และออฟไลน์รวมกว่า 200 ล้านครั้ง และตั้งเป้าให้ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2569 เพิ่มขึ้นราว 15-20% เมื่อเทียบกับปี 2568
ในแง่การปฏิบัติ ททท. ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อยกระดับมาตรการความปลอดภัยและการต้อนรับนักท่องเที่ยว เช่น มาตรฐานด้านสุขอนามัยในสถานที่ท่องเที่ยว การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ต้อนรับ และการจัดจุดบริการข้อมูลนักท่องเที่ยวภาษาต่างประเทศเพิ่มเติม
ด้านตัวชี้วัดความสำเร็จ ททท.แจ้งว่าจะติดตามผ่านตัวชี้วัดหลัก (KPI) ได้แก่ จำนวนผู้เข้าชมต่างชาติ ตัวเลขการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ระยะเวลาพำนักเฉลี่ย และดัชนีความพึงพอใจของนักท่องเที่ยว พร้อมรายงานผลเป็นระยะทุกไตรมาส
สำหรับคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ “ททท. ทำอะไร” ในการแถลง คุณฐาปนีย์อธิบายสั้นๆ ว่า ททท. มีหน้าที่วางแผนและดำเนินมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ ทั้งการทำการตลาดในประเทศและต่างประเทศ ส่งเสริมผู้ประกอบการท่องเที่ยว การพัฒนาผลิตภัณฑ์และเส้นทางท่องเที่ยว รวมถึงการประสานงานด้านนโยบายเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับภาคการท่องเที่ยว
แหล่งข่าวระบุเพิ่มเติมว่า ททท. จะเร่งติดตามผลจากการเปิดตัวแคมเปญและปรับกลยุทธ์ตามสถานการณ์โลก เพื่อให้การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวเป็นไปอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง โดยจะมีการประเมินผลเบื้องต้นภายใน 3 เดือนหลังเริ่มดำเนินการ